มาบวชกันเถิดครับ...พี่..น้อง..

ขอบคุณภาพจากวัดพระธรรมกาย

ช่วงนี้ออกพรรษากันเรียบร้อยแล้ว จะเห็นได้ว่า พระสงฆ์ได้ลาสิกขาไปแล้วจำนวนหนึ่ง ทำให้พระสงฆ์ซึ่งน้อยอยู่แล้ว น้อยลงไปอีก ดังนั้นวันนี้ จึงมาพูดถึงเรื่องการบวชว่าทำไมต้องบวช......

การบวช เป็นการยกฐานะ จากบุคคลธรรมดา เพศคฤหัสถ์ สู่ความเป็นเพศบรรพชิต ยกระดับจากผู้นับถือพระรัตนตรัย มาเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย สละออกจากการงานทุกอย่างของคฤหัสถ์ มารักษาศีล ศึกษาธรรมะ และเจริญภาวนา ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

จุดประสงค์สำคัญของการบวช คือ การเพิ่มปริมาณพระภิกษุ ให้มีจำนวนมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีจำนวนพระสงฆ์ลดลงเรื่อย ๆ ทุกปี อีกทั้งในปัจจุบัน กระแสการบวช นิยมบวชในระยะสั้น ๆ คือ 3 วันบ้าง 5 วันบ้าง 7 วันบ้าง 15 วันบ้าง ทำให้ผู้บวช ยังไม่สามารถเรียนรู้พระธรรมวินัยได้อย่างจริงจัง และท่องแท้ จึงทำให้ไม่สามารถนำหลักธรรมไปใช้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหลักธรรมส่วนใหญ่แล้ว จะได้จากการปฏิบัติมากกว่า การศึกษาจากทฤษฎี

ขอบคุณภาพจาก www.dmycenter.com

ดังนั้น เมื่อมีโอกาสได้มาบวชแล้ว ควรบวชให้ได้อย่างน้อยสัก 1 พรรษา เพื่อจะได้ศึกษาธรรมะพื้นฐานอย่างเต็มที่ ให้สมกับการมาบวชนั้นยาก เพราะว่าทุกคนมีภาระหน้าที่ ที่จะต้องรับผิดชอบใน หลาย ๆ ด้าน เช่น ด้านการงาน ด้านครอบครัว ด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ และด้านศาสนา ซึ่งทุก ๆ ด้านก็มีความสำคัญทั้งนั้น ก็ให้ประเมินและชั่งน้ำหนักในการจัดสรรตัวเองอย่างไรบ้าง

มีบางคนถามว่า...หากส่งเสริมวัดพระธรรมกายแล้วพุทธศาสนาจะเจริญหรือไม่ ??? และพุทธศาสนาจะได้เป็นศาสนาประจำชาติไหม....???? เป็นคำถามที่น่าคิดทีเดียว โดยส่วนตัว ก็ชื่นชมวัดพระธรรมกายเหมือนกัน เนื่องจากวัดนี้ เขาทำงานกันเป็นทีม มีการแบ่งงานช่วยกันทำอย่างจริงจัง ทำงานอย่างมีระบบ ระเบียบ สะอาด เรียบร้อย และยังสุภาพอีกด้วย

ซึ่งในโลกนี้จะหาองค์กรแบบนี้ก็ไม่ง่าย นอกจากนี้ยังมีน้ำใจช่วยเหลือวัดที่ลำบาก ขาดแคลน ... วัดที่อยู่ในที่กันดาร ไม่มีกฐิน ก็ให้เด็กดีวีสตาร์ไปเป็นตัวแทนในการถวายกฐิน ...วัดน้ำท่วม ก็ไปช่วยน้ำท่วม ...วัดทางใต้ ได้รับความเดือดร้อนเรื่องอาหารก็จัดตักบาตร นำอาหารแห้งไปช่วยเหลือ ซึ่งทำมาเป็นเวลาเกือบ 20 กว่าปีแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวคิดว่า...ลำพังวัดพระธรรมกายอย่างเดียว ก็ไม่อาจจะทำให้ศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองได้ ....แต่จะต้องเป็นหน้าที่ของทุกวัดในประเทศไทย ที่ต้องช่วยกัน....พระทุกรูป สามเณรทุกรูป อุบาสกทุกคน อุบาสิกาทุกคน ที่อยู่ภายในวัด....พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนที่มาบำรุงวัด ... ทุกคนจะต้องมาร่วมแรง ร่วมใจช่วยกัน... โดยไม่ต้องมาแบ่งแยกว่าเป็นมหานิกาย หรือเถรวาท ทั้งหมดเป็นพระสงฆ์ด้วยกัน ถ้าทำได้อย่างนี้ พุทธศาสนาจะมีความเจริญรุ่งเรืองในยุคเราอย่างแน่นอน

ตอนนี้งานที่เร่งด่วนอย่างแรกที่ต้องรีบช่วยกันคือ...อย่าปล่อยให้วัดไม่มีพระสงฆ์ คือเป็นวัดร้าง ต้องรีบมาช่วยกัน ชวนลูก ชวนหลาน ชวนบุคคลอันเป็นที่รัก หรือชวนญาติสนิทมิตรสหายของเรา มาบวชกัน เพื่อช่วยกันรักษา สืบทอด อายุพระพุทธศาสนา เพราะหากไม่มีพระสงฆ์ ศาสนาพุทธจะอยู่ได้อย่างไร ???

ควรต้องปลูกฝังเรื่องการบวชให้กับชายไทย ว่า ....เกิดเป็นลูกผู้ชาย ต้องบวชให้ได้อย่างน้อย 1 พรรษา หรือหลายพรรษาก็ยิ่งดี บวชแล้วบวชอีกก็ได้ ความรู้ในหลักธรรมจะได้แน่น จะได้มีธรรมะไว้สอนลูกสอนหลาน และสอนคนอื่น ๆ ได้ด้วย ศาสนาพุทธจะได้เจริญรุ่งเรือง ประเทศชาติจะได้มีแต่ความสงบสุข

ท้ายสุดนี้ อยากจะขอชื่นชมการบวชของวัดพระธรรมกาย ที่มีการชวนชายแมน ๆ มาบวชตลอดทั้งปี ทั้งเข้าพรรษา และออกพรรษา ในช่วงใกล้นี้ ก็มีการบวชบูชาธรรมหลวงพ่อทัตตชีโว อายุ 79 พรรษา มีกำหนดการและรายละเอียดดังนี้

ท้ายสุดนี้ ขอเอาเรื่องอานิสงส์ในการบวช สรุปย่อ ๆ ได้ 4 อย่างคือ ...

1.ประโยชน์ที่เกิดกับตัวผู้ขอบวชจะได้รับ ....คือได้เรียนธรรมะ ได้ปฏิบัติธรรมะจริงจนได้ผลจริง ทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์

2. ประโยชน์ที่ญาติทั้งหลายมีบิดา มารดา เป็นต้น จะได้รับ .... บิดามารดาก็มีความปีติปราโมทย์ มีศรัทธามากขึ้น มีความมั่นคงในพระศาสนามาก เรียกว่าเป็นญาติในพระศาสนานั่นเอง และรู้สึกเบาใจว่าลูกจะมีหลักธรรมเป็นที่พึ่ง

3.ประโยชน์ที่เพื่อนมนุษย์สัตวโลกทั้งหลายจะพึงได้รับ ....สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงกับศาสนานั้นสัมพันธ์กัน อยู่ ถ้าศาสนายังมีอยู่ในโลก สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงก็ปลอดภัย ฉะนั้นเราทำศาสนาให้มีอยู่ในโลก ก็คือทำประโยชน์ให้เกิดแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง

4.ประโยชน์ที่พระศาสนาจะพึงได้รับ คือ ....ทำให้ศาสนาดำรงอยู่ต่อไปได้ เพราะมีพระสงฆ์รักษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ เพราะฉะนั้น โดยสรุปคือ...พระพุทธศาสนาจะมีอายุอยู่ได้ไม่สูญหาย ก็เพราะว่า... มีคนบวชคนเรียน ... มีคนปฏิบัติถูกต้อง ...มีคนได้ผลของการปฏิบัติจริง มีพยานบุคคลในการเข้าถึงธรรม