วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561



...สุขสันต์วันปีใหม่...

วันนี้วันดีปีใหม่ ท้องฟ้าแจ่มใสพาใจสุขสันต์

ยิ้มให้กันในวันปีใหม่ โกรธเคืองเรื่องใดจงอภัยให้กัน
หมดสิ้นกันที ปีเก่า เรื่องทุกข์เรื่องเศร้าอย่าเขลาคิดมัน
ตั้งต้นชีวิตกันใหม่ ให้มันสดใส สุกใหม่ทั่วกัน

เอ้า เฮ เฮ เฮเฮ้เฮเฮเห่ สุกใหม่ทั่วกัน
รื่นเริง เถลิงศกใหม่
ช่า รื่นเริง เถลิงศกใหม่
รวมจิตร่วมใจ ทำบุญร่วมกัน
ทำบุญกันตามประเพณี กุศลราศรีบรรเจิดเฉิดฉัน

พี่น้อง ร่วมชาติเดียวกัน
พี่น้อง ร่วมชาติเดียวกัน
ขอให้สุขสันต์ ทั่วกันเอย
นอย ทิงนองนอย น้อยหน่อยนอยนอย
หน่อยทิงนองนอย

วันนี้วันดีปีใหม่ ท้องฟ้าแจ่มใสพาใจสุขสันต์
ยิ้มให้กันในวันปีใหม่ โกรธเคืองเรื่องใดจงอภัยให้กัน
หมดสิ้นกันที ปีเก่า เรื่องทุกข์เรื่องเศร้าอย่าเขลาคิดมัน
ตั้งต้นชีวิตกันใหม่ ให้มันสดใส สุกใหม่ทั่วกัน

เอ้า เฮ เฮ เฮเฮ้เฮเฮเห่ สุกใหม่ทั่วกัน
รื่นเริง เถลิงศกใหม่
ช่า รื่นเริง เถลิงศกใหม่
รวมจิตร่วมใจ ทำบุญร่วมกัน
ทำบุญกันตามประเพณี กุศลราศรีบรรเจิดเฉิดฉัน

พี่น้อง ร่วมชาติเดียวกัน
พี่น้อง ร่วมชาติเดียวกัน
ขอให้สุขสันต์ ทั่วกันเอย
นอย ทิงนองนอย น้อยหน่อยนอยนอย
หน่อยทิงนองนอย

วันนี้วันดีปีใหม่ ท้องฟ้าแจ่มใสพาใจสุขสันต์
ยิ้มให้กันในวันปีใหม่ โกรธเคืองเรื่องใดจงอภัยให้กัน
หมดสิ้นกันที ปีเก่า เรื่องทุกข์เรื่องเศร้าอย่าเขลาคิดมัน
ตั้งต้นชีวิตกันใหม่ ให้มันสดใส สุกใหม่ทั่วกัน

เอ้า เฮ เฮ เฮเฮ้เฮเฮเห่ สุกใหม่ทั่วกัน
รื่นเริง เถลิงศกใหม่
ช่า รื่นเริง เถลิงศกใหม่
รวมจิตร่วมใจ ทำบุญร่วมกัน
ทำบุญกันตามประเพณี กุศลราศรีบรรเจิดเฉิดฉัน

พี่น้อง ร่วมชาติเดียวกัน
พี่น้อง ร่วมชาติเดียวกัน
ขอให้สุขสันต์ ทั่วกันเอย
นอย ทิงนองนอย น้อยหน่อยนอยนอย
หน่อยทิงนองนอย

ขอขอบคุณ....เพลงรื่นเริงเถลิงศก นี้ ถอดคำร้องและตรวจสอบโดย สยามโซน.คอม หากนำไปเผยแพร่ต่อกรุณาให้เครดิต สยามโซน.คอม หรือใส่ลิงก์กลับมาที่หน้า เนื้อเพลงรื่นเริงเถลิงศก ด้วย

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2561



                  แหม...ช่วงนี้ก็ใกล้ปีใหม่  และใกล้เลือกตั้ง  หลายคนมีใจจรดจ่อ  อยากเห็นประชาธิปไตยเต็มแก่....     อยู่ ๆ มีข่าววัดพระธรรมกายออกมา  แบบใจหายใจคว่ำกันเลยละค่ะ    กุ๊งกิ๊งใจหายหมดเลย   ...สด ๆ ร้อน ๆ วันนี้ (  วันที่ 26 ธันวาคม 2561 )  เวลา  12.28  น.  บอกว่า  "เริ่มแล้ว! ปฏิบัติการยึดทรัพย์ธรรมกาย"  

                        กุ๊งกิ๊งตกใจ   แต่ไม่อยากให้คนอื่น  ๆ  ตกใจตาม  จึงอยากจะเขียนเล่าให้ฟังว่า   การยึดทรัพย์ของวัดพระธรรมกาย  มันมีขั้นตอน  ..ของกฏหมายอยู่ค่ะ.... ไม่ใช่ว่าอยากจะยึดก็ยึดได้ตามที่ต้องการ  ....บ้านเมือง...มีขื่อมีแป ...มีกฎหมายคุ้มครอง. เพราะฉะนั้น ขอให้ทุกคนตั้งสติ  และตั้งใจ  อย่าตื่นตูม  และอย่ากลัว   มาดูกันตามหลักการค่ะ

                     ขณะนี้วัดพระธรรมกาย  ยังอยู่ในขั้นตอนของการอายัดการใช้อาคาร เท่านั้น   ...การอายัดคือ  การห้ามมีการขาย หรือโอน ทรัพย์สินนั้น   ซึ่งเป็นเรื่องของคณะกรรมการธุรกรรม  คือ ปปง. หรือ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  ซึ่งมีอำนาจ หน้าที่ในการอายัดทรัยพ์สินได้ตาม ม.34 (3) โดยดำเนินการตาม ม.48 วรรค 1   ...กล่าวคือ หากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินใดที่เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ก็สามารถมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินนั้นไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกินเก้าสิบวัน

                     หมายถึง หากคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. มีเหตุทำให้เชื่อว่าทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน (แม้จะอยู่ในขั้นตอนการกล่าวหา ยังไม่มีคำพิพากษาของศาลว่ามีความผิด) อาจมีการจำหน่าย จ่ายโอน ก็สามารถอายัดทรัพย์สินนั้นไว้ก่อนได้เป็นการชั่วคราว

                      สรุปคือ...ที่เขาอายัดก็เพื่อเกรงว่าจะมีการขาย หรือโอน ทรัพย์สินนั้น   ...ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ...พุทธสถานแห่งนี้   ทุก ๆ คนได้บริจาคปัจจัยที่หามาด้วยความยากลำบาก  คนละเล็ก คนละน้อย  หรือบางคนมีกำลังมาก ก็ทำมาก อย่างเต็มกำลัง  เพื่อสร้างสถานที่ไว้เป็นศูนย์รวมใจ และเป็นประโยชน์ทางพระพุทธศาสนา ไม่มีความคิดที่จะทำอย่างอื่นเลย 

                      หากดูไปตามเนื้อผ้า ...นายศุภชัย มาถวายเงินให้วัด...วัดมีหน้าที่รับเงินบริจาค โดยไม่ทราบว่า นายศุภชัยเอาเงินมาจากไหน  แล้วเอาเงินนั้นไปก่อสร้างพุทธสถาน.(โดยสามารถตามจากเช็คที่นายศุภชัยถวาย)....เงินที่นายศุภชัยเอาบริจาคให้กับวัดมีจำนวน พันกว่าล้าน   ลูกศิษย์ได้ช่วยกันคืนให้กับสหกรณ์ เพื่อเยียวยาสมาชิกไปหมดแล้ว ...  ส่วนจำนวนที่เหลืออีก หมื่นกว่าล้านก็บริจาคให้กับสถาบันอื่น. ๆ ...ตามตัวอย่างข้างล่างนี้ 

            
                      จากการฟังข่าว ... เหมือนกับว่า  จะยกความเสียหายของสหกรณ์ทั้งหมดจำนวนหมื่นกว่าล้านนี้  ให้วัดพระธรรมกายรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว  .....หวังยึดทรัพย์วัดหมื่นกว่าล้านไปเยียวยาสหกรณ์  ....  ทำอย่างนี้ถูกต้องหรือ ???  แล้วคนอื่น ๆ ที่บริจาคโดยสุจริต ล่ะ  ใครจะคุ้มครองสิทธิ์ของเขา  เขาก็หาเงินมาด้วยความยากลำบาก  ต้องการพุทธสถานไว้สวดมนต์  นั่งสมาธิ  เป็นที่พึ่งที่ระลึกก่อนละโลกไป ....แล้วจะให้เขาทำอย่างไร ?????



                  เพราะฉะนั้น กุ๊งกิ๊งขอเรียนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายด้วยความเคารพว่า ... ควรกระทำด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง  นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตใจและวิญญาณของคนจำนวนมหาศาล  จำนวนเป็นแสน เป็นล้านคน  ที่มีดวงใจ  หรือมโนปณิธานที่จะสร้างพุทธสถานนี้ เพื่อเป็นที่ประพฤติ ปฏิบัติธรรมไว้ให้ลูกหลานไทย  และเป็นสมบัติของแผ่นดิน 


                   อีกประเด็นหนึ่งเรื่องการจะยุบมูลนิธิธรรมกาย และมูลนิธิอุบาสิกาจันทร์นั้น   เป็นเรื่องที่ยังต้องรอผลการพิสูจน์ทางกฏหมายอาญา  อีกระดับหนึ่ง จนกว่าทุกอย่างจะชัดเจนว่า ..        มุูลนิธิทั้งสองได้ทำผิดกฏหมายจริง ๆ  หรือไม่ ...ถ้าไม่ผิด ก็ไม่สามารถที่จะยุบมูลนิธิฯทั้งสองได้  ซึ่งในขณะนี้ นายศุภชัย  ก็ยังอยู่ขั้นตอนการ ฟ้องร้องกันอยู่ 

                    กุ๊งกิ๊งอยากจะฝากถึงทุก ๆ ท่าน ที่เป็นลูกศิษย์วัดฯ ว่า  อย่าได้ตื่นตระหนกตกใจอะไรกันให้มาก  ทำใจของเราให้ใส  ให้สะอาด  ให้บริสุทธิ์  เตรียมตัว เตรียมใจ  รับบุญใหญ่ในปีใหม่นี้  และรับธรรมยาตรา ที่เราจะสร้างบุญ สร้างบารมี เพื่อบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์กัน  รอวันที่ความจริงเปิดเผย  รักษาใจกันให้ดีกันทุก ๆ คน  เก็บเกี่ยวบุญไปให้มาก ๆ  ให้สมกับการเกิดมา  แล้วได้พบพระพุทธศาสนาในชาตินี้  


                   ท้ายสุดนี้ กุ๊งกิ๊งขออวยพรปีใหม่  ปีกุนนี้  ขอให้ลูกหลานมหาปูชนียาจารย์ทุก ๆ ท่าน  มีสุขภาพแข็งแรง   อายุขัยยืนยาว  มีความสุข  มีความเจริญ  มีความปลอดภัยในทุกสถาน  มีสมบัติใหญ่ไหลมาเทมาใช้สร้างบารมีไม่รู้จักหมดจักสิ้น   ใครมีหนี้สินก็ขอให้หมดหนี้สิน เหลือกินเหลือใช้ไว้สร้างบารมี  ให้มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตตลอดปีและตลอดไป   ขอให้ใจใส ใจสบายกันทุกคนเลยค้าาาาาาาา 
................................................


วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2561

                    

                    เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ธรรมมหารัฐ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช ระบุถึงกรณีภาครัฐเตรียมยึดทรัพย์มูลนิธิของวัดพระธรรมกาย โดยยืนยันว่าที่ผ่านไม่มีการฟอกเงิน เนื่องจากใครใส่บาตร บริจาค พระและวัดก็ต้องรับไว้ตามหน้าที่ ขอให้คนไทยร่วมกันปกป้องพุทธศาสนา

                    รัฐบาลได้ใช้กำลังตำรวจทหาร บุกยึดวัดฯ มาแล้วหลายครั้ง ด้วยข้อหาฟอกเงิน รับของโจร  ทั้งๆ ที่ พระไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินสิ่งของบริจาค ผู้ใดมาใส่บาตร มาทำบุญวัดก็ต้องรับไว้เสมอไม่สอบถาม

                     เนื่องจาก พระและวัดมีหน้าที่รับเงินทองสิ่งของของผู้สร้างบุญเหล่านี้เพื่อส่งทรัพย์ของเขาในชาตินี้ เป็นบุญเป็นทรัพย์สินของเขาในชาติต่อๆไป เป็นหน้าที่ของพระของวัดครับ ไม่ใช่ฟอกเงินครับ

                      กลุุ่มผู้กล่าวหาหลายคนก็ได้รับผลบาปเห็นทันตาบางคนเครือญาติเสียชีวิต ด้วยโรคแปลกๆแต่เขาเหล่านั้น ก็ยังไม่เห็นผลแห่งกรรมของตนเอง

ขอบคุณข่าว...จากมติชน  
คัดมาบางช่วง บางตอน

.....................................................

                      อ่านเนื้อข่าวแล้ว กุ๊งกิ๊งก็ปลื้มใจเป็นล้นพ้น  ที่ยังมีผู้ใหญ่ที่มีใจรักพระพุทธศาสนา  เป็นห่วงพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง กล้าที่จะออกมาพูดต่อหน้าสาธารณะชน อย่างเปิดเผย   กุ๊งกิ๊งขอแสดงความเลื่อมใสศรัทธาด้วยใจจริง  และขออนุโมทนาในกุศลเจตนานี้ด้วยเจ้าค่ะ

#ธรรมะดีดี  #ข้อคิด #สาระดีดี #มีประโยชน์  #คนจริง #รักจริง  #จริงใจ #กรรม #รักจริงต้องแชร์





วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2561

..ดีเอสไอ สั่งปิดมูลนิธิขนนกยูง..
..ยึดทรัพย์ธรรมกาย.. 
************
                       
                         เนื้อหาข่าวจากเนชั่น ทีวี  ...ในวันนี้ (29 พ.ย.) เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ จะแถลงความเห็นทางคดี ในคดีพิเศษที่ 24/2560 กรณีการกล่าวโทษมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ในอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) และกรรมการ มีความผิดในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินนอกจากนั้น มูลนิธิฯ ยังดำเนินการผิดวัตถุประสงค์ก่อตั้งมูลนิธิฯ จึงเสนอให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาลสั่งให้ยุบมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และขอศาล สั่งให้ทรัพย์สินมูลนิธิฯ ตกเป็นของแผ่นดิน โดยทรัพย์สินบางส่วน ปปง.ได้ยึดอายัดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
                 สำหรับ วัดพระธรรมกาย มีโครงการก่อสร้างอาคารถาวรวัตถุ บนพื้นที่ 2,000 ไร่ ย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี และอีกหลายพื้นที่ในต่างจังหวัด โดยสิ่งก่อสร้างที่ได้ชื่อว่า ใช้เงินลงทุนมากที่สุด คือ อาคาร 100 ปี คุณยายจันทร์ ขนนกยูง ใช้งบกว่า 5,000 ล้านบาท อาคารจอดรถวัดพระธรรมกาย มีมูลค่าการก่อสร้างกว่า 2,600 ล้านบาท โครงการเวิลด์พีซ วัลเลย์เขาใหญ่ มีมูลค่าการลุงทุน 3 เฟซ กว่า 1,500 ล้านบาท และโครงการนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบปัญหาการบุกรุกและใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์

คัดลอกเนื้อหาข่าว
มาจาก www.Nation.TV บางช่วงบางตอน 
.........................................................................................
มาดูกันว่าเป็นอย่างไร

                     การฟอกเงินคืออะไร ????   คือการทำเงินสกปรกที่อยู่ภายใต้การควบคุมของตนเอง  ที่ได้มาโดยมิชอบ  แล้วมาสร้างภาพให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าได้เงินมานั้นชอบด้วยกฎหมาย  



                      การกล่าวโทษมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ในอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) มีความผิดในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน  ก่อนอื่นต้องมาดูการได้มาของเงิน  คือการรับบริจาคของวัดฯ  มีทั้งการรับเงินสด (มีหลักฐานการรับมา) หรือถ้าเป็นเช็ค  ก็เข้าบัญชี ก็สามารถตรวจสอบได้  ไม่มีอะไรแอบแฝง  อำพราง   ...ส่วนการใช้ไปของเงิน  ... ก็เอาไปก่อสร้างเป็นอาคารต่าง ๆ ที่มีความจำเป็น และมีประโยชน์  ...ทุกคนก็เห็น เห็นกันอยู่ ....เช่นอาคาร 100 ปี คุณยาย , อาคารจอดรถ ,เวิลด์พีช ฯลฯ  ที่มา และที่ไปของเงิน ทุกบาท ทุกสตางค์ ชัดเจนอย่างนี้    แล้วมาผิดการฟอกเงินตรงไหน....???



                      การฟอกเงิน ...โดยทั่วไป น่าจะเป็นเงินที่ไม่สามารถอธิบายแหล่งที่มาของเงินนั้นได้  ตัวอย่างเช่น  อยู่ ๆ มีเงินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  อาจจะไปทำอะไรที่ทุจริต เช่น ขายยาบ้า  เล่นการพนัน  หรือทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่ผิดกฏหมาย  ฯลฯ  จึงทำให้ได้เงินนั้นมา  คนฉลาดเหล่านั้นก็เอาเงินผิดกฏหมายนั้น ไปทำให้ถูกกฏหมาย โดยเอากิจการบางอย่างมาบังหน้าไว้  แท้จริงแล้วเงินที่ได้มานั้นเป็นเงิน ผิดกฏหมาย  

                     แต่สำหรับวัดพระธรรมกาย มีหลักฐานการเงินชัดเจน  เงินทุกบาทที่เขาเอามาบริจาค  จะมีการออกหลักฐานให้  เรียกว่าใบอนุโมทนา ให้กับทุกคน  ไม่เกี่ยงว่าจำนวนเงินจะมากหรือน้อย   ยกเว้นผู้บริจาคไม่ต้องการหลักฐาน  ก็จะหยอดใส่ตู้รับบริจาค

                      การกล่าวหานายศุภชัย ว่า....ฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดมูลฐานของข้อหาฟอกเงิน และกล่าวหาประธานมูลนิธิฯ ว่า...มีความผิดฐานสบคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ตรงนี้ก็อยากให้แยกนายศุภชัยกับมูลนิธิฯ ออกจากกันก่อน เพราะความจริงก็ไม่เกี่ยวกัน นายศุภชัย คือผู้บริจาคคนหนึ่งเท่านั้น ก็เหมือนกับคนบริจาคคนอื่น ๆ เป็นแสน เป็นล้านคนที่มาบริจาคให้กับวัดฯ เขาแค่เอาเงินมาบริจาคเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้าง  เพื่อส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อเป็นบุญกุศลเท่านั้น  การเอาคน 1 คน มาผูกกับมูลนิธิ ฯ อย่างนี้  กุ๊งกิ๊งเห็นว่าเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง 

                     วัดฯและมูลนิธิฯ มีผู้บริจาคก็มีจำนวนมาก ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง  คนที่บริจาคมากกว่านายศุภชัยก็มีจำนวนไม่น้อย   กุ๊งกิ๊ง ก็อยากถามอีกว่า ... สิทธิ์ของผู้บริจาคโดยสุจริตและเปิดเผย เหล่านั้น ....ควรจะได้รับความคุ้มครอง หรือไม่ ???  เพราะเขาบริจาคจริง และมีความตั้งใจจริงที่จะส่งเสริมและจรรโลงพระพุทธศาสนาจริง  เขาคือเจ้าของ  เขาคือเจ้าของเงินที่แท้จริง      ... กุ๊งกิ๊ง อยากให้คิดกันให้มาก ๆ  ....ถ้ากระทำไม่ระมัดระวัง จะมีเจ้าทุกข์เกิดขึ้นเป็นล้านคน ...แล้วจะทำอย่างไรนิ   

                     ส่วนเรื่องของนายศุภชัยจะผิดหรือไม่  ตามข้อกล่าวหา เป็นเรื่องที่ต้องรอการตัดสิน  แต่อย่างไรก็ตามการกระทำความผิดของคนคนหนึ่ง ไม่น่าจะมากินรวบ และทำให้ผู้บริจาคโดยสุจริตและเปิดเผยคนอื่นๆ  ต้องได้รับผลในทำความผิดนั้นด้วย ....คุณว่าจริงไหม ???...
  

                                และหากจะกล่าวหาว่า ...วัดพระธรรมกาย มีการฉ้อโกงประชาชน .????  ...ความจริง    ทุกคนที่มาบริจาคปัจจัยนั้น  มีความศรัทธา  และเลื่อมใสในผู้นำขององค์กรนี้  จึงมีความยินดีในการบริจาคทุกโครงการ  เพราะเมื่อได้ผู้บริจาคได้บริจาคแล้ว สิ่งที่พวกเขาได้เห็นคือ  ...งานก่อสร้าง ที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว   ผู้บริจาคสามารถเข้าไปใช้งานได้ในขณะที่มีชีวิตและลมหายใจอยู่   ทุกคนปลื้มที่ได้ทำ แล้วตนเองก็ได้ประโยชน์...ทำให้เกิดความมั่นใจ  และเต็มใจในการบริจาคทุกครั้ง  ไม่เคยคิดว่าวัดฯ ฉ้อโกงเลย ... ส่วนคนที่กล่าวหาว่าวัดฯฉ้อโกงนั้น......จากการประเมินพบว่า...ส่วนใหญ่เป็นคนไม่เคยมาบริจาคเงินที่วัดฯ และไม่เคยมาวัดพระธรรมกายเลย  

                      


*****************************
                     
                      ส่วนหากจะบอกว่า....มูลนิธิคุณยายอาจารย์  ทำผิดวัตถุประสงค์นั้น  ความจริงก็คือความจริง  ... มูลนิธิคุณยายอาจารย์ฯ คอยสนับสนุนการก่อสร้างอาคารสถานที่ต่างๆ เพื่อใช้ในการขยายงานพระพุทธศาสนา เพื่อให้คนมาใช้สร้างความดีเท่านั้น!  ไม่เคยนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย


                        จะเห็นได้ว่า ...การออกข่าวในครั้งนี้   DSI  ออกมาแถลงข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ   โดยที่เรื่องยังไม่ถึงศาลเลย   ข่าวออกมาเหมือนว่า....จะยึดเรียบร้อยแล้ว  .....ทำให้รู้สึกว่าเรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากลอยู่  .... กุ๊งกิ๊ง เป็นห่วงพระพุทธศาสนา  จึงขอให้พุทธศาสนิกชนทั่วโลก  ให้เห็นความสำคัญของการเป็นชาวพุทธให้มาก ให้ทุกคนมีความรัก ความสามัคคี  เป็นหนึ่งเดียวกัน  เพื่อนำพาพระพุทธศาสนาให้มั่นคงและยืนนานตราบเท่าที่ลมหายใจมีอยู่กันนะ  


                    ท้ายสุดนี้ กุ๊งกิ๊ง อยากฝากบอกว่า ...พุทธศาสนิกชนทุกคน  ท่านเป็นผู้ที่โชคดี เกิดมาเจอพระพุทธศาสนา แม้ผ่านมา 2500 กว่าปีแล้ว  แต่คำสอนของพระพุทธองค์ก็ยังอยู่  ใครปฏิบัติตาม ก็จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง  คนที่ทำร้ายพระ ทำร้ายพระพุทธศาสนา ก็รับผลกรรมกันก็มาก  ที่เห็นในปัจจุบัน  กรรมที่ทำไว้ไม่ไปไหนแน่นอน เห็นผลไม่นานเกินรอ ..เพราะฉะนั้นพุทธศาสนิกชนทุกคนอย่าลืมมาช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนากันนะเจ้าค่ะ

#ธรรมะดีดี  #ข้อคิด #สาระดีดี #มีประโยชน์  #คนจริง #รักจริงต้องช่วยแชร์  #จริงใจ #DSI #ดีเอสไอ


                        


ชนะวิกฤต​ Covid-19 ด้วยการสวดมนต์เป็นไปได้จริงหรือไม่

ชนะวิกฤต​ Covid-19   ด้วยการสวดมนต์เป็นไปได้จริงหรือไม่       ช่วงนี้คงได้ข่าวเกี่ยวกับ รมต.สำนักนายก ได้เสนอให้มหาเถรสมาคม  ถ่ายท...