วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561


'วัดพระธรรมกาย' ....เกิดอะไรขึ้น? 
มีกระแสปลดคณะผู้บริหาร.

*****************
            
                  กว่าจะมาเป็นวัดพระธรรมกายในวันนี้  เกิดจากการทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เลือดเนื้อและชีวิตของรุ่นบุกเบิกมาเท่าไหร่ ...สร้างกันมาด้วยความยากลำบาก ต้องอดทนต่อการไม่เข้าใจของหลาย ๆ ฝ่าย อดทนการกระทบกระทั่งกันเอง มีความลำบากต่อสู้ฝ่าฝันมาด้วยกัน  เหตุไฉนวันนี้ กลุ่มลูกศิษย์บางคนที่บอกว่ารักวัด รักหลวงพ่อ รักพระพุทธศาสนา ต้องมาใส่หน้ากาก ไล่ผู้บริหารวัดออกไป   

                   ล่าสุด คุณอัยย์ เพชรทองได้ให้สัมภาษณ์ ช่อง now 26 วันที่ 1 พ.ย. 61 เวลา 12.04 น. บอกว่า  เห็นวัดไม่ชอบมาพากล .. อยากจะทวงวัดคืนให้กับชาวพุทธ ... ให้กับคนที่มีใจบริสุทธิ์ ...  อยากทำตามที่คุณยายต้องการคือทำวัดให้เป็นวัด  ... เพราะตอนนี้มันเน่า มันเลอะ ไปกันใหญ่แล้ว 

                             
                             โธ่ถัง กะละมังแตก ....วัดพระธรรมกาย เป็นวัดของชาวพุทธอยู่แล้ว  คนที่อยู่ในวัด ก็มีใจสะอาดบริสุทธิ์ หน้าตาผ่องใส  เพราะมีการสวดธัมมจักรกันทั้งวันทั้งคืน  และมีการนั่งสมาธิทุกวันอาทิตย์  ส่วนพระภิกษุ  อุบาสก  อุบาสิกา  เจ้าหน้าที่ทุกสถานภาพ นั่งสมาธิกันทุกวัน ....คิดว่า  ไม่มีความจำเป็นต้องทวงสิทธิ์ให้ใคร ...เพียงแต่เรื่องนี้ขอให้คุณอัยย์ยุติบทบาทที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง  ทุกอย่างก็จะสงบ 

                   ขอให้ทุกคนทำตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง เช่น  ผู้บริหารก็มีหน้าที่ในการดูแล กำหนดนโยบาย การทำงานขององค์กร..  เด็กวัดก็มีหน้าที่ของเด็กวัด ...  ส่วนเจ้าภาพและสาธุชนก็มีหน้าที่ของเจ้าภาพและสาธุชน  ไม่ควรเล่นให้ผิดบทบาท  ทุกอย่างที่ผู้บริหารทำ  ย่อมมีเหตุผลรองรับเสมอ  เพราะทุกคนไม่ได้ทำตามอำเภอใจ  มีมติจากที่ประชุมชัดเจน 

                         คุณอัยย์ต้องถามตัวเองว่า      ในขณะนี้     ที่ทำอยู่ มันใช่บทบาทของลูกศิษย์วัดหรือ ??? (ใส่หน้ากากแล้วไล่ผู้บริหาร)  หรือ (ไปร้องเพลงวัดกูมี...) ไปออกข่าวที่ไหน ก็ไปอ้างตัวว่าเป็นศิษย์เอกวัดพระธรรมกาย  และอ้างว่าทำเพราะรักหลวงพ่อ  อย่าเอาความรักหลวงพ่อมาย้อนศร ทำลายวัดตัวเองเลย 

                      คุณยายอาจารย์ท่านเป็นอาจารย์หลวงพ่อทั้งสอง ท่านเป็นผู้บุกเบิกสร้างวัดมา  แต่เมื่อสร้างวัดเสร็จแล้ว ท่านเข้าไปกราบหลวงพ่อเจ้าอาวาสว่า ท่านขอเป็นแค่ศิษย์วัด ขอแค่ข้าวทานไปมื้อ ๆ ส่วนการบริหารจัดการวัด เรื่องราวอะไรต่าง ๆ เป็นของหลวงพ่อเจ้าอาวาสทั้งหมด  นี่เป็นคุณธรรมของครูบาอาจารย์ เรา

                       พวกเราก็เช่นเดียวกัน  แม้ว่าทุกคนช่วยกันสร้างวัดมา ด้วยความเหนื่อยยาก  เงินทองไม่ได้หามาได้ง่าย  ยังอดออมมาเพื่อทำบุญ  เพราะอยากได้บุญ หน้าที่เราคือเก็บเกี่ยวบุญให้เต็มที่ในช่วงชีวิตหนึ่ง   ส่วนเรื่องของวัดก็ให้เป็นหน้าที่ของพระสงฆ์  ให้ท่านบริหารจัดการกันเอง  เราไม่ควรไปยุ่ง เพราะมันจะทำให้วุ่นวายเหมือนวัดอื่น ๆ เข้าทำนองวัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง ... หากว่ามีพระเป็นหนอน  พระท่านก็จัดการของท่านเอง  เป็นการภายในในส่วนของท่าน   

                      และถ้าหากเราไปกล่าวหาท่าน โดยที่เราไม่รู้จริง ...หากท่านไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ..  เราไม่แบกบาป แบกกรรมไปแย่หรอกหรือ ...  แล้วมันจะคุ้มไหม..???.กับการลงมาเกิดในชาตินี้???   ..ขอให้เชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม  เอาตัวเองให้รอด  อย่าเป็นเหยื่อของพญามาร  พญามารมันวางกับดักล่อหลอกเราตลอดเวลา

                         
               เพราะฉะนั้นถ้ารักหลวงพ่อจริง ต้องไม่ทำแบบนี้    หลวงพ่อไม่เคยสอนให้ลูกๆ แตกความสามัคคีกัน   มีแต่สอนให้รักกัน สามัคคีกัน และฝากฝังให้ดูแลวัด ดูแลพระศาสนาแทนหลวงพ่อ ในยามนี้ ยิ่งต้องช่วยกันให้มีความรัก สามัคคีให้มากขึ้นกว่าเดิม  เพราะเรารู้ว่าภัยศาสนามีรอบด้าน   
  
                     สำหรับคุณอัยย์ ยังจำได้ไหม...??? ตอนที่วัดเดือดร้อน ถูกทหารล้อมด้วยคำสั่ง ม.44 คุณอัยย์ เป็นคนหนึ่งที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ต่อสู้กันมาด้วยความยากลำบาก ยังนึกถึงบุญออกไหมค่ะ  ...ส่วน พระผู้บริหารของวัด ยิ่งเสียสละมากกว่า  หากวันนั้นไม่มีพระผู้บริหารชุดนี้เอาชีวิตเป็นเดิมพัน เพื่อวัด เพื่อหลวงพ่อ ป่านฉะนี้...วัดพระธรรมกายก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง  ท่านทำงานหนักมาก  หามรุ่งหามค่ำ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน  ท่านเสียสละมากกว่าพวกเราเยอะ เพราะฉะนั้นให้เห็นความสำคัญซึ่งกันและกัน 

                      อยากให้คุณอัยย์ถามตัวเองว่า มาวัดเพื่ออะไร ???  ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่  ...ตอนนี้ยังไม่สาย  ยังมีลมหายใจอยู่  สามารถกลับอกกลับใจได้  คนเรามีการเกิดและการตายมี 4 แบบ คือ มาสว่าง  ไปสว่าง ....บางคน มาสว่าง  แต่ไปมืด....บางคน  มามืด  แต่ไปสว่าง ....บางคน  มามืด  แล้วก็ไปมืด...  เราจะเลือกแบบไหน  ตัดสินใจกันนะคะ

                                 ท้ายสุดนี้  กุ้งกิ้งอยากบอกว่า ถ้าเรารู้เท่าก็จะเสียครึ่ง  ถ้าเรารู้ไม่ถึงจะเสียหมด  จะทำอะไรก็คิดให้รอบด้านว่าจะเกิดผล อย่างไรบ้าง ก่อนที่จะสายเกินไป...  และฝากบทความที่คนข้างนอกเขียนไว้  ให้อ่านเป็นข้อคิด ของเดลินิวส์ ดังนี้   'วัดธรรมกาย'เกิดอะไรขึ้น? มีกระแสปลดคณะผู้บริหาร... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/article/674301


14 ความคิดเห็น:

  1. คุณอัยย์ ส่งยอดสวดธรรมจักรด้วยนะครับ และอย่าลืมนั่งหลับตาเยอะๆ นึกถึงกฏแห่งกรรมบวกลบคูณหารบุญบาป (อุปมาอุปไมยส่วนตัว)ชีวิตกำลังคุ้มอย่าให้เสียตอนปลายนะครับ

    ตอบลบ
  2. ขอเป็นกำลังใจให้คุณอัยย์..รู้เท่า-ทันพญามาร..หยุด-นิ่ง-เฉย..นึกถึงโอวาทหลวงพ่อ..แล้วช่วยกันสวดธัมมจักฯให้ได้..1000 ล้านจบก่อนสิ้นปีนี้..แล้วเราจะได้..ชิตังเมไปพร้อมๆกัน..

    ตอบลบ
  3. คุณอัยย์
    ห้องใจใสยินดีต้อนรับค่ะ
    อยู่วิหารคต ค.1
    ไปนั่งมาแล้วรู้สึกโล่งโปร่งสบาย มองเห็นพระเจดีย์ พระพุทธเจ้าหนึ่งล้านพระองค์ คิดถึงบุญออกทุกบุญเลย คิดถึงคุณอัยย์ค่ะ ขอให้อยู่ในบุญนะคะ เรื่องในวัดเป็นเรื่องของพระท่าน เรื่องหลับตาและนึกถึงบุญเป็นเรื่องของเราค่ะ อย่าให้ อะไรๆมาเข้าแทรกค่ะ

    ตอบลบ
  4. ความพร้อมเพรียงของหมู่ให้เกิดสุข เราลูกพ่อเดียวกัน
    มาสวดมนต์หน้าเจดีย์กันเยอะๆค่ะ สาธุ

    ตอบลบ
  5. ดีจังเลย ชาววัดพระธรรมกายที่แท้จริง
    มีแต่จะให้อภัย ให้ความเมตตา และให้โอกาส
    คนมาสร้างความดี
    ไม่ใช่เอาไฟมาเผาวัด โดยแอบอ้าง
    รักครูบาอาจารย์ รักวัด
    คำพูด คำโฆษณา คำปั่นน้ำเป็นตัว
    มุสาใส่ความ ตรงข้ามกับความการกระทำ
    ที่ผ่านมาทั้งหมด

    ** อนุโมทนาสาธุ กับจิตเมตตาของ
    ทุกๆท่านทุกๆคน มาณโอกาสนี้

    ตอบลบ
  6. มนุษย์กับมนุษย์ไม่ใช่ศัตรูที่แท้จริง ศัตรูที่แท้จริงคือเวลาและพญามาร ถ้าเราเชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม นั่นแหละคือผู้พิพากษาที่แท้จริงที่จะตัดสินทุกคนจากผลแห่งการกระทำ

    ตอบลบ
  7. เรารักวัดพระธรรมกายด้วยการปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหล่าครูบาอาจารย์ที่สอนให้รักการทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หมั่นจับดีคนอื่นแต่จับผิดตนเอง เพื่อแก้ไขปรับปรุงตนเอง ฉะนั้นจงหยุดการทำร้ายทำลายวัดด้วยวิธีการต่างๆ ก่อนจะสายเกินไป สาธุ ขอกราบอนุโมทนาบุญลูกพระธัมมชโย หลานคุณยายทุกๆท่าน

    ตอบลบ
  8. ดีใจจังค่ะที่ได้อ่าน อ่านแล้วรู้สึกปลื้ม ในความรัก ความห่วงใย ความเมตตา การให้อภัย ที่หมู่คณะลูกหลวงพ่อมีให้แก่กัน ไม่เสียใจเลย และดีใจอย่างที่สุดที่ได้อยู่ในหมู่คณะนี้ค่ะ

    ตอบลบ
  9. พวกเรายังคงรักวัด รักสามัคคี
    ตามแนวทางที่หลวงพ่อ คุณยาย สอนไว้
    หวังว่าคุณอัยย์จะอยู่ในร่องในรอยตามแบบลูกที่ดี
    ของหลวงพ่อเช่นกันนะคะ

    ตอบลบ
  10. โปรดอย่าลืมบุญของตนเอง และ อย่าลืมคุณของหลวงพ่อ ใจใสหยุดให้นิ่งยิ่งเพิ่มบุญบารมี
    สาธุค่ะ

    ตอบลบ
  11. ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก

    ตอบลบ
  12. หลวงพ่อรู้ดีครับใครเป็นใคร ผู้มองการณ์ทะลุผ่านอสงไขย ไม่มองเพียงปลายเหตุ คำพูดหลวงพ่อทุกคำทรงคุณค่า หากสิ่งนี้มีค่า หลวงพ่อจะบอกครับ

    ตอบลบ
  13. ใครต้มใคร ใครถูกต้ม แล้วผู้บอกคนต้มก็เป็นคนนอก แล้วก็สร้างวาทะกรรมซำ้ๆยำ้ๆ ก็ไม่ต่างจากวาทะกรรมโจมตีหลวงพ่อเมื่อก่อนหน้านี้ พอเอาหลวงพ่อลงได้แล้วก็มาใช้วาทะกรรมเล่นงานคกก.บห.พระลูกหลวงพ่อต่อ อยากถามว่ามีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ อย่ามาว่าเราไม่มีปัญญา เพราะเรามีปัญญาเราจึงพอมองกันออก คนเขาเอียนกับวาทะกรรมจอมปลอมซำ้ๆแบบนี้มานานแล้ว เลิกเถอะครับ กลับตัวกลับใจตอนนี้ยังไม่สาย

    ตอบลบ
  14. ชาตินี้เรามาเกิด มาเจอหลวงพ่อ ได้รู้จักบุญบาป กฏแห่งกรรม มามากพอสมควร เราควรละเลิก สิ่งที่จะก่อบาป ก่อกรรมให้กับเราเพิ่มขึ้น บาปกรรมที่เราสร้างมาตอนที่ไม่รู้ว่าอะไรคืออะไร เราก็ทำมาเยอะแล้ว ต่อไปนี้เราน่าจะทำแต่สิ่งที่ประโยชน์กับวัด และพระพุทธศาสนาเท่านั้น ทำอย่างนี้ก็สมที่ได้เป็นลูกหลวงพ่อ หลานคุณยายกันคะ เชื่อมั่นในหลวงพ่อว่าไม่มีใครทำอะไรท่านได้ ..ใครคิดทำร้ายท่านคนนั้นก็อยู่ไม่ได้เองด้วยบาป ...ส่วนตัวเราก็ไม่เอาบาปกรรม เอาแต่บุญก็พอ ...สิ่งที่เราคิดถ้าไม่จริงขึ้นมา เท่ากับเราขาดทุนล้วน ๆ เชื่อเถอะนะ

    ตอบลบ

ชนะวิกฤต​ Covid-19 ด้วยการสวดมนต์เป็นไปได้จริงหรือไม่

ชนะวิกฤต​ Covid-19   ด้วยการสวดมนต์เป็นไปได้จริงหรือไม่       ช่วงนี้คงได้ข่าวเกี่ยวกับ รมต.สำนักนายก ได้เสนอให้มหาเถรสมาคม  ถ่ายท...