วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562

การถวายผลไม้ 
 ได้อานิสงส์ อย่างไร ...


            วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ   2562   ได้มีการปลูกทุเรียนก้านยาวทรัพย์เศรษฐี 179 ต้น  โดยขออนุญาตใช้พื้นที่ของมูลนิธิตะวันธรรม ประมาณ 8 ไร่ ณ บริเวณ ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี  เป็นพื้นที่ด้านหลังวัดตะเคียนที่อยู่ใกล้กับวัดโบสถ์บน


              นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า

              "กิจกรรมในวันนี้ (วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ   2562) เป็นการปลูกทุเรียนพันธุ์ก้านยาว และไม้ผลอื่นๆ   เป็นการทำกิจกรรมของคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย และเครือข่ายชาวพุทธ ในรูปแบบเกษตรกรรมเชิงอนุรักษ์ ทั้งยังเป็นการรวมใจถวายกตัญญูบูชาแด่มหาปูชนียาจารย์ คือ พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
        
                เนื่องจากที่ดินผืนนี้ ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับวัดโบสถ์บน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานแห่งการบรรลุธรรมของท่าน

               โดย มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาพันธุ์ทุเรียนก้านยาวแท้ของจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาในทางวิชาการเกษตรฯ โดยผลิตผลที่ได้จากการปลูกทั้งหมด จะนำไปถวายพระภิกษุ-สามเณรตามวัดต่างๆ ในจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดใกล้เคียง

                คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย และเครือข่ายชาวพุทธ ที่มีความประสงค์ร่วมกิจกรรมฯ ได้พร้อมใจกันร่วมปลูกต้นทุเรียน จำนวน 179 ต้น พร้อมทั้งได้ร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามศรัทธาในการปลูก การดูแลรักษา และการดำเนินการด้านต่างๆ จากนี้ไป  ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ต่อไป"

ฟังสัมภาษณ์คุณองอาจ ธรรมนิทรา เพิ่มเติม...
https://youtu.be/mVlEuWAcXYM






..........................................

                มาดูในสมัยพุทธกาลบ้าง ....การได้ถวายผลไม้แด่พระภิกษุสงฆ์  ได้อานิสงส์มากขนาดไหน.....


               สมัยนั้น พระเจ้าพิมพิสารเกิดความอยากจะเสวยผลมะม่วง ในเวลาที่มิใช่ฤดูมะม่วง. ท้าวเธอตรัสกะพนักงานเฝ้าสวนว่า พนายเอ๋ย ข้าเกิดอยากกินผลมะม่วงขึ้นมาแล้ว เพราะฉะนั้น เจ้าจงนำมะม่วงมาให้ข้าทีเถิด.

               เจ้าพนักงานกราบทูลว่า ข้าแต่เทวะ ขณะนี้มะม่วงทั้งหลายยังไม่มีผล พระเจ้าข้า แต่ถ้าหากพระองค์จะโปรดรอคอยชั่วเวลาสักเล็กน้อย ข้าพระบาทก็จะทำให้มันออกผลให้ได้ ไม่นานเลย พระเจ้าข้า.


               ตรัสว่า ดีสิ พนาย ลงมือทำอย่างนั้นเลย. พนักงานเฝ้าสวนก็ไปสวน เอาดินละเอียดที่โคนต้นมะม่วงออกไปแล้ว เกลี่ยดินละเอียดเช่นนั้นลงใหม่ รดน้ำลงตรงนั้นจนต้นมะม่วงสลัดใบ ไม่นานนัก ครั้นแล้วก็เอาดินละเอียดนั้นออกไป เกลี่ยดินละเอียดตามปกติ ผสมกับกากมะปรางแล้วใส่น้ำรสหวานลงไป.




               ครั้งนั้น ไม่นานเลย ต้นมะม่วงทั้งหลายก็ออกช่อตามกิ่ง ตูมแล้วก็บาน ออกผลดิบอ่อนแล้วก็แก่. ในต้นมะม่วงเหล่านั้น ต้นหนึ่งก็สุกก่อน ๔ ผล มีสีแดงเรื่อดังผงชาด มีกลิ่นรสหอมหวาน.

               พนักงานเฝ้าสวนนั้น ก็ถือผลมะม่วงเหล่านั้นเดินไปหมายจะถวายพระราชา ระหว่างทางพบท่านพระมหาโมคคัลลานะกำลังบิณฑบาต คิดว่า มะม่วงเหล่านี้เป็นผลไม้ชั้นยอด จำเราจักถวายพระผู้เป็นเจ้าเสียเถิด พระราชาจะทรงฆ่า หรือเนรเทศเราก็ตามที. เพราะว่า เมื่อเราถวายพระราชา ก็จะพึงมีผลเล็กน้อยเพียงค่าตอบแทนในปัจจุบัน แต่เมื่อเราถวายพระผู้เป็นเจ้าแล้ว จักมีผลไม่มีประมาณ ทั้งปัจจุบันทั้งภายหน้า.



               ครั้นคิดอย่างนี้แล้วก็ถวายผลมะม่วงเหล่านั้นแก่พระเถระ แล้วเข้าเฝ้า กราบทูลเรื่องนั้นถวายแด่พระราชา.


               พระราชาทรงสั่งราชบุรุษว่า พนาย พวกเจ้าจงสอบสวนอย่างที่บุรุษผู้นี้กล่าวก่อน.


               ส่วนพระเถระนำผลมะม่วงเหล่านั้นน้อมถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.


               ในผลมะม่วงเหล่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทานแก่ท่านพระสารีบุตรผล ๑ ท่านพระมหาโมคคัลลานะผล ๑ ท่านพระมหากัสสปะผล ๑ เสวยเองผล ๑


               พวกราชบุรุษจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระราชา


               พระราชาทรงสดับเรื่องนั้นแล้ว ทรงปลื้มพระทัยว่า บุรุษผู้นี้เป็นบัณฑิตที่ยอมสละชีวิตตนขวนขวายแต่บุญ และได้สร้างฐานความลำบากใจให้แก่ตนเอง แล้วพระราชทานบ้านส่วยตำบล ๑ และผ้าผ่อนเครื่องประดับเป็นต้นแก่เขาแล้วตรัสว่า พนาย เจ้าขวนขวายบุญด้วยการถวายผลมะม่วงเป็นทาน เจ้าจงให้ส่วนบุญจากทานนั้นแก่เราบ้างสิ.



               เขากราบทูลว่า ข้าแต่เทวะ ข้าพระบาทขอถวาย โปรดทรงรับส่วนบุญตามสมควรเถิด พระเจ้าข้า.


               ต่อมาพนักงานเฝ้าสวนก็ตายไปเกิดในเหล่าเทพชั้นดาวดึงส์ วิมานทอง ๑๖ โยชน์ ประดับด้วยห้องรโหฐาน ๗๐๐ ก็บังเกิดแก่เขา.


               ท่านพระมหาโมคคัลลานะพบเทพบุตรนั้นแล้วถามว่า


               วิมานเสาแก้วมณีนี้สูงขนาด ๑๖ โยชน์โดยรอบ มีห้องรโหฐาน ๗๐๐ โอฬาร ล้วนเสาแก้วไพฑูรย์ ปูลาดด้วยเครื่องลาดอันสวยงาม ท่านนั่งดื่มและกินอยู่ในวิมานนั้น พิณทิพย์บรรเลงไพเราะ เหล่าเทพกัญญาชั้นไตรทศ ๖๔,๐๐๐ ล้วนแต่ดี ผู้ชำนาญศิลป์พากันฟ้อนรำขับร้อง ทำความบันเทิงอย่างโอฬาร.


               ท่านบรรลุเทวฤทธิ์ แล้วมีอานุภาพมาก ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

               เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกท่านพระโมคคัลลานะถามแล้ว ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า


               บุคคลผู้มีใจเลื่อมใส ในท่านผู้ปฏิบัติตรง เมื่อถวายทานก็เป็นผู้ถวายผลไม้ ย่อมได้ผลอันไพบูลย์. แท้จริง ผู้ถวายผลไม้นั้นถึงสวรรค์แล้ว ก็บันเทิงในสวรรค์ชั้นไตรทิพย์ และเสวยผลบุญอันไพบูลย์.


               ข้าแต่ท่านมหามุนี ข้าพเจ้าก็อย่างนั้นเหมือนกัน ได้ถวายผลมะม่วง ๔ ผล.


               เพราะฉะนั้น มนุษย์ผู้ต้องการสุข หรือปรารถนาสุขทิพย์ หรือปรารถนาความสวยงามของมนุษย์ ก็ควรถวายผลไม้เป็นนิตย์ทีเดียว.


               เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็นเช่นนี้ เพราะบุญนั้น ผลนี้จึงสำเร็จแก่ข้าพเจ้า และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ข้าพเจ้า.



...................................................

                เหล่าศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ก็เช่นเดียวกัน  มีความปรารถนา "บุญผลาทิพย์" นี้ โดยพร้อมใจกันปลูกทุเรียนก้านยาว   ดูแล  รักษา  อย่างดีที่สุด   เพื่อให้ได้ผลไม้ที่ดีที่สุด  ได้ถวายกับพระภิกษุ   สามเณร ได้ขบฉัน   อย่างนี้  ควรจะอนุโมทนาดีไหมจ้า ........
               


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ชนะวิกฤต​ Covid-19 ด้วยการสวดมนต์เป็นไปได้จริงหรือไม่

ชนะวิกฤต​ Covid-19   ด้วยการสวดมนต์เป็นไปได้จริงหรือไม่       ช่วงนี้คงได้ข่าวเกี่ยวกับ รมต.สำนักนายก ได้เสนอให้มหาเถรสมาคม  ถ่ายท...